ราเกซ สักเสนา ฉายา "พ่อมดการเงิน" อดีตที่ปรึกษาธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ(บีบีซี)กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง หลังเงียบหายไปเกือบ 10 ปี เมื่อศาลอุทธรณ์มณฑลบริติช โคลัมเบีย ประเทศแคนาดา พิพากษายืนตามคำตัดสินของ นายมาร์ติน คูชอน รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมแคนาดา ที่จะให้ส่งตัวนายราเกซ มาให้ทางการไทยดำเนินคดีในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน และไม่ให้ประกันตัว
11-11-2008 12:48 คดีบันลือโลก เกิดจาก นายราเกซ มีโอกาสเข้ามาเป็นที่ปรึกษา นายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ กรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ ซึ่งถูกทางการไทยยื่นฟ้องเมื่อปี 2539 ฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์บีบีซี 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ 3,000 ล้านบาท) อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ธนาคารเก่าแก่แห่งนี้ ต้องตกอยู่ในภาวะล้มละลายในปี 2538 นายเกริกเกียรติ นายราเกซ พร้อมพวก ใช้วิธีการปล่อยกู้ที่มีความเสี่ยงสูง และกิจกรรมที่ใช้เงินจำนวนหลายหมื่นล้านบาทให้พรรคพวกที่เป็นนักการเมือง จากนั้น ตบแต่งบัญชีให้มีผลกำไรนับพันล้านบาท ทั้งที่ขาดทุนย่อยยับ ทำให้ บีบีซี ต้องตกอยู่ในภาวะล้มละลายในปี 2538 เนื่องจากมีหนี้สิน 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.2 แสนล้านบาท) หลังจากนั้นไม่นาน สถาบันการเงินกว่า 50 แห่ง ก็ต้องปิดตัวลงจนเป็นเหตุให้เกิดการขาดความเชื่อมั่นในระบบธนาคารไทย และนำไปสู่วิกฤติเศรษฐกิจการเงินในเอเชียหรือที่เรียกว่า "โรคต้มยำกุ้ง" ในปี 2540 การเปิดปมปัญหาการคอรัปชั่นในบีบีซีเริ่มต้นจาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายแฉกลโกงบีบีซี ด้วยวิธีเซียนเรียกพี่ ต่อสภาผู้แทนราษฏร เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2539 ซึ่งตรงกับสมัย นายกรัฐมนตรีบรรหาร ศิลปอาชา ผลการอภิปรายในครั้งนั้น ทำให้ นายกฯบรรหาร สั่งให้ นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในขณะนั้น ดำเนินการสั่งปิดบีบีซี ตามมาด้วยปฏิบัติการล้างบาง ในธนาคารแห่งประเทศไทย กระทั่ง 17 พฤษภาคม 2539 กระทรวงการคลัง ได้ตั้งคณะกรรมการเข้าควบคุมธนาคารแห่งนี้แบบเบ็ดเสร็จจากนั้นนายเกริก เกียรติ เดินทางไปประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แต่ก็กลับมาสู้คดีในประเทศไทยในเดือนถัดมา และเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2548 นายเกริกเกียรติ ถูกศาลอาญากรุงเทพใต้ตัดสินจำคุกรวมทั้งหมด 3 คดี คดีละ 10 ปี รวมเป็น 30 ปี และปรับรวมกันทั้งหมด 3,330 ล้านบาท ส่วน นายราเกซ หลบหนีไปประเทศแคนาดาตั้งแต่ปี 2539 และถูกทางการไทยออกหมายจับเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2539 จากนั้นถูกตำรวจแคนาดาจับกุมที่เมืองวิสต์เลอร์ มณฑลบริติช โคลัมเบีย เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ปีเดียวกัน แต่นายราเกซ ได้สู้คดีส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อจะไม่ต้องถูกส่งตัวกลับมาไทย โดยอ้างว่าถูกใส่ร้ายให้เป็นแพะรับบาป จากกลุ่มผู้บริหารบีบีซี และผู้กำกับดูแลระบบการเงินของไทย ซึ่งพยายามปกปิดเรื่องอื้อฉาวในบีบีซี และการต่อสู้คดีดังกล่าวได้จารึกไว้ ว่ากินเวลายาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์แคนาดา ต่อมาในปี 2546 นายมาร์ติน คูชอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแคนาดา ตัดสินให้ส่งตัวนายราเกซให้ทางการไทย แต่นายราเกซดิ้นรน ต่อสู้ในศาลอุทธรณ์ เพื่อที่จะไม่ต้องถูกส่งตัวกลับ โดยอ้างว่าถ้าถูกส่งกลับประเทศไทยอาจถูกสังหารหรือถูกขังในคุกอย่างโหดร้าย ทารุณ จนล่าสุดเมื่อศาลอุทธรณ์มณฑลบริติช โคลัมเบีย ประเทศแคนาดา พิพากษายืนตามคำตัดสินของรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมแคนาดา ชะตากรรมของนายราเกซจึงอยู่ที่ผลการฎีกา ซึ่งจะตัดสินชะตากรรมของราเกซ ว่าจะจบลงอย่างไร ทั้งนี้ ขั้นตอนการดำเนินคดีนายราเกซ นั้น ตามกฎหมายของประเทศแคนาดาสามารถยื่นฎีกาภายในระยะเวลา 30 วัน เมื่อยื่นแล้วศาลฎีกาจะให้อัยการพิจารณาคัดค้านภายในระยะเวลา 30 วัน จากนั้นศาลจะพิจารณาอีกครั้งว่าจะรับฎีกาหรือไม่ ซึ่งจะใช้เวลาในการพิจารณาไม่เกิน 60 วัน ซึ่งการพิจารณาจะรับฎีกานั้นมีเหตุผล 2 ประการ คือประการที่หนึ่ง คือต้องเกี่ยวกับความมั่นคง และผลประโยชน์ของประเทศแคนาดา และประการที่สอง คือ เกี่ยวกับปัญหาข้อกฎหมายที่สำคัญ อย่างไรก็ดี เชื่อว่า เรื่องของนายราเกซ ไม่เข้าข่ายทั้งสองกรณี จึงคาดว่าศาลจะไม่รับฎีกาของนายราเกซ และถ้าศาลไม่รับฎีกาก็จะต้องส่งตัวนายราเกซมาดำเนินคดีในประเทศภายในระยะ เวลา 45 วัน นับจากวันที่ศาลฎีกาไม่รับพิจารณาคดี สำหรับการประสานขอตัวนายราเกซมาดำเนินคดีในประเทศไทยนั้นเป็นไปตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศทางอาญา มีอัยการสูงสุดเป็นผู้ประสานงานกลางรับตัวนายราเกซ กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย และสามารถดำเนินคดีต่อในประเทศไทยได้ทันที ส่วนฐานความผิดของนายราเกซ เป็นคดีร่วมกันยักยอกทรัพย์ และผิด พระราชบัญญัติหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ และคดียักยอกทรัพย์ ทั้งนี้ คดีความผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ มีอายุความ 15 ปี จึงสามารถดำเนินคดีได้ทันที เมื่อนายราเกซกลับมาในประเทศไทย ส่วนคดียักยอกทรัพย์ที่มีอายุความ 10 ปี ไม่สามารถเอาผิดนายราเกซได้ เนื่องจากหมดอายุความไปแล้วเมื่อเดือนกรกฎาคม 2548
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น